เณรแอ ออกโรง เผยราคาหัวกะโหลกมนุษย์ หลังโจรย่องตัดคาสุสาน

จากกรณีเมื่อวันที่ 14 ต.ค. ตำรวจสภ.กันทรารมย์ ได้รับแจ้งว่ามีคนร้ายเข้าทุบเบ้าเก็บศพ ที่ทำจากท่อซีเมนต์ หรือชาวบ้านในพื้นที่เรียกว่า...



จากกรณีเมื่อวันที่ 14 ต.ค. ตำรวจสภ.กันทรารมย์ ได้รับแจ้งว่ามีคนร้ายเข้าทุบเบ้าเก็บศพ ที่ทำจากท่อซีเมนต์ หรือชาวบ้านในพื้นที่เรียกว่า ดอยศพ ในป่าช้าบ้านหนองมะแซว หมู่ 8 ต.ดูน อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ พบท่อที่ตั้งอยู่เรียงกันถูกทุบไปสองท่อ โดย 1 ใน 2 ศพที่ถูกทุบท่อ คือ ศพของนายศักดิ์ดา โสลุน อายุ 32 ปี ที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ กะโหลกศีรษะหายไป ส่วนอีกศพที่อยู่ใกล้กันเป็นศพของนายหนูสิน ทิพย์โพธิ์ อายุ 62 ปี เสียชีวิตจากถูกรถไฟทับ ก็หายไปเช่นกัน นายศักดา โสลุน

ล่าสุด พ.ต.อ.พิษณุ สิทธิฑูรย์ ผกก.สภ.กันทรารมย์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ลงพื้นที่ตรวจสอบ สภาพโครงกระดูกภายในหลุมศพนายศักดา พบเงินสดจำนวนหนึ่ง และมือถือ 1 เครื่อง อยู่ภายในโรงศพ จากการตรวจสอบโครงกระดูก เจ้าหน้าที่ยังไม่ฟังธงว่ามีส่วนใดของโครงกระดูกหายไป ตำรวจเร่งประชุมคลี่คลายคดี

ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้เดินทางลงพื้นที่มายังสุสานชั่วคราว พร้อมกับครอบครัวของผู้ตายทั้ง 2 คน โดยพบว่าได้มีการประกอบพิธีทางศาสนา เชิญวิญญาณกลับหลุมและล้อมด้วย สายสิญจน์ สีขาว ล้อมเป็นรูปสี่เหลี่ยม มีการแพรวถางหญ้าให้โล่งเตียน โบกปูนปิดทับ จุดที่โดนคนร้ายเจาะ และยังมีการนำกิ่งไม้ที่มีหนามมาปลุกคุมหลุมศพเอาไว้ เพื่อป้องกันสัตว์และคนร้ายเข้ามาก่อเหตุซ้ำ จากนั้นทีมข่าวยังสังเกตว่า บริเวณรอบหลุมฝังศพ มีร่องรอยบางอย่าง ซึ่งเป็นก้านธูป และหยดเทียน โดยญาติบอกกับทีมข่าวว่า อาจเป็นส่วนที่กลุ่มคนร้ายใช้ประกอบพิธีก่อนตัดหัวศพ แต่ไม่พบเครื่องรางของขลัง หรือสิ่งแปลกปลอม ที่ใช้ในการประกอบพิธีหลงเหลือทิ้งเอาไว้

ด้านนางภา ทิพย์โพธิ์ อายุ 62 ปี ภรรยา ของนายหนูสิน บอกว่า ยอมรับว่ารู้สึกไม่ดี คนตายไปแล้วยังจะมาเบียดเบียนอีก ตนอาศัยอยู่มาแล้ว กว่า 60 ปี ไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้ เคยได้ยินแต่จังหวัดอื่น แต่ไม่คิดว่าจะลามมาถึงพื้นที่ของตนเอง แต่วันที่มีคนมาขโมยหัว มีลางบอกเหตุบางอย่างคือมี นกอีกาดำ บินมาเป็นกลุ่มใหญ่ ร้องเสียงดังบริเวณบ้าน ซึ่งความเชื่อของคนในหมู่บ้าน หากมีนกอีกาดำมาปรากฏตัวจะมีคนตาย แต่ก็ไม่มีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น ไม่มีคนตาย จนกระทั่งมาทราบภายหลังว่าเป็นรางบอก


เหตุเกี่ยวกับมีโจรมาขโมยหัวศพ นางภา ทิพย์โพธิ์ ภรรยานายหนูสิน


ขณะที่นางบุญมา โสลุน อายุ 51 ปี แม่ของนายศักดา เปิดใจว่า ไม่รู้ว่าคนก่อเหตุเป็นใคร ต้องการเอาไปทำเพื่ออะไร แต่อยากได้หัวของลูกคืนกลับมา เพราะกังวลว่าหากครบ 3 ปี วันเผา หรือทำบุญใหญ่ แล้วร่างกายยังไม่ครบ ก็จะทำให้ชาติหน้าเกิดมาไม่ครบ 32 ประการ ที่สำคัญหากยังหาหัวไม่เจอ ก็จะต้องมีการทำหัวพลาสติก จำลอง เพื่อสวมใส่และเผาให้กับลูก เป็นการแก้เคล็ด เชื่อว่าต้องมีใบสั่งจากใครบางคน และต้องเป็นคนรู้หรือคนใกล้ชิดชี้เป้า นางบุญมา โสลุน แม่นายศักดา
นอกจากนี้ เณรแอ หรือนายหาญ รักษาจิตร์ เจ้าของฉายาจอมขมังเวทย์ (เจ้าของตำนานย่างศพเด็กทำเสน่ห์ยาแฝด สะเดาะเคราะห์ ปลุกเสกของขลัง) บอกว่า หัวกะโหลกที่หายไปนั้นมีคนเอาไปทำไสยสาสตร์แน่นอน เช่น นำเอาไปปลุกเสกใช้งานผีให้เป็นบริวาร หรือนำไปทำเครื่องรางของขลังต่างๆ บ้างก็เอาไปทำของมงคล เพื่อเสริมบารมีแก่ผู้พกพา เช่นเดียวกับปั้นเหน่งที่สวมอยู่ในคอ คุณสมบัติของเหล่านี้มีหลายด้าน รวมถึงเซียนพนันทั้งหลายชอบบูชาพกพาเอาไว้เข้าบ่อน ถือเป็นค่านิยมของคนที่ชื่นชอบในด้านนี้ ไม่เว้นกระทั่งคนจีนก็ยังนิยม จึงทำให้ราคาพุ่งสูงขึ้นถึงหลักแสนบาท ทั้งนี้การจะเอากะโหลก หรือกระดูกคนตายไปนั้น ต้องมีการทำพิธีสดกดวิญญาน และต้องมีการเลี้ยงดูให้ของกินกราบไหว้คล้ายกับบูชากุมารทอง


มองว่าคนที่จะเอากะโหลกไปทำไสยศาสตร์ส่วนใหญ่จะมีใบสั่ง ให้ไปหามา หรือไม่ก็มีเกลือเป็นหนอน ต้องมีคนในชักชวนไปเอามาให้ ชื่อ วันเวลา ของคนตาย มีผลในการปลุกเครื่องรางของขลัง อยากฝากเตือนว่าเรื่องไสยศาสตร์ถือเป็นดาบสองคม เพราะวันหนึ่งของอาจเข้าตัวคนทำเอง และมั่นใจว่าน่าจะตามหากะโหลกคืนได้ยาก เพราะบางครั้งกะโหลกอาจถูกทุบเป็นผง มวลสารใส่ในเครื่องราง

ขอขอบคุณ ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34


You Might Also Like

0 comments