วันที่ 19 ม.ค. 62 นายนภดล นาเมือง อายุ 44 ปี เดินทางเข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ภาย


หลังจากเมื่อช่วงค่ำวันที่ 18 ม.ค. ได้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม. ยิงนายอำนาจ สาลี อายุ 39 ปี คนขี่รถจักรยานยนต์จำนวน 3 นัด เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ บริเวณถนนหลังมหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตสารสนเทศเพชรบุรี ต.สามพระยา อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี


โดยนายนภดลให้การรับสารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุตนพร้อมภรรยาได้เดินทางไปซื้ออาหาร ขณะขับรถมาก่อนถึงที่เกิดเหตุพบเห็นรถจักรยานยนต์ของผู้ตายขี่มาปาดหน้า ตนได้เปิดกระจกลงมาและมีการโต้เถียง แต่ผู้ตายมีลักษณะอาการเมา ตนจึงขับรถปลีกตัวออกมา จากนั้นได้แวะซื้อกับข้าวที่ตลาดนัด ปรากฏว่าผู้ตายได้ขับขี่จักรยานยนต์ตามมา และด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย ตนก็ได้ห้ามปราม จากนั้นผู้ตายได้ขี่รถจักยานยนต์ไปข้างหน้า จอดรถดักรอตนเมื่อตนไปถึงผู้ตายได้โบกรถให้จอด ตนลงจากรถและลงไปพูดคุย แต่ผู้ตายยังใช้ถ้อยคำหยาบคายด่าทอ และพยายามตรงเข้ามาทำร้าย ตนจึงใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายจำนวน 3 นัด


นอกจากนี้นายชาญ (นามสมมติ) พ่อค้าร้านอาหารตามสั่งที่อยู่บริเวณใกล้เคียง เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุช่วงเย็นมีรถยนตร์ฟอร์จูนเนอร์สีดำ ขับมาจอดที่หน้าร้าน โดยมีนายนภดลและภรรยาลงมาจากรถเพื่อซื้อข้าวผัดกะเพราหมูกรอบใส่กล่อง ระหว่างนั้นมีรถจักรยานยนต์ของนายอำนาจตามมาจอดที่หน้าร้านเช่นเดียวกัน ทันทีที่รถจักรยานยนต์จอดนิ่ง นายนภดลจึงถามนายอำนาจว่า "เมื่อกี้ว่าอะไรกู" จากนั้นนาย


อำนาจจึงบอกว่า "ไม่ได้ว่าอะไร คุยโทรศัพท์" และทั้งคู่ก็มีปากเสียงกัน คล้ายกับว่าไม่อยากมีเรื่องตรงนั้น มาคุยย่านชุมชนคนจะได้เห็น โดยระหว่างทั้งคู่คุยกันนั้นได้น้ำเสียงปกติ ไม่มีท่าทีทะเลาะกันรุนแรงแต่อย่างใด สุดท้ายก่อนแยกกันคนขับรถจักรยานยนต์พูดว่า "มึงจะเอายังไงกับกู"
จากนั้นคนขับรถจักรยานยนต์จึงให้ภรรยารอที่ร้านอาหารตามสั่ง ก่อนขับรถยนต์ตามออกไปก่อเหตุดังกล่าวขึ้น จากนั้นผ่านไปไม่กี่นาที นายนภดล ขับรถกลับมารับภรรยาพร้อมเปิดกระจกเรียกว่า "ไปกันเถอะ มันตายแล้ว" จากนั้นภรรยาก็รีบวิ่งขึ้นรถทันที ไม่เอาข้าวกล่อง ไม่จ่ายเงิน แล้วขับหนีไป
ขณะนั้นคนในร้านอาหารตามสั้ง ต่างไม่เชื่อว่าเสียชีวิตแล้ว เนื่องจากใช้เวลาไม่กี่นาที อีกทั้งคิดว่าพูดเล่น จนกระทั่งทราบในเวลาต่อมาว่าคนขับรถจักรยานยนต์เสียชีวิตจริง ตนจึงตกใจมากไม่คิดว่าจะฆ่าและกลับมาอย่างใจเย็น ตนจึงรีบปิดร้านกลับบ้านทันที เนื่องจากกลัวจะไม่ปลอดภัย เพราะไม่เคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน


ด้านนางสาวสุนทรีย์ บุญรอด หลานสาวผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า แม้จะสามารถจับกุมตัวมือยิงได้แล้ว แต่ตนยังมีความกังวลว่าผู้ต้องหาจะสามารถหลุดพ้นคดีได้ง่าย จึงอยากให้ดำเนินคดีจนถึงที่สุด เนื่องจากตั้งข้อสังเกตว่าเป็นผู้มีอิทธิพลหรือไม่ ทำไมถึงกล้าก่อเหตุอุกอาจขนาดนี้ ยอมรับว่ารู้สึกไม่พอใจมากที่ผู้ต้องหาจ่อยิงถึง 3 นัด ถ้าหากไม่พอใจที่ผู้เสียชีวิตปากไม่ดี หรือถูกด่าทอ ก็ไม่น่าจะถึงขึ้นยิงกันขนาดนี้
และแม้ว่าผู้เสียชีวิตจะเป็นคนขี้เมา แต่ก็เป็นคนรักครอบครัว ปัจจุบันมีลูกทั้งหมด 6 คน มีภรรยามาแล้ว 4 คน ผู้เสียชีวิตเป็นคนขยันทำงาน เมื่อได้เงินก็จะเก็บให้ลูกทั้งหมด เพียงแต่ตอนมึนเมาสุราอาจจะมีนิสัยเปลี่ยนแปลงไปเป็นคนละคน ซึ่งพฤติกรรมการก่อเหตุของคนร้ายนั้นโหดเหี้ยม เลือดเย็นและรุนแรงเกินกว่าเหตุ อยากให้คู่กรณีออกมารับผิดชอบครอบครัวผู้สูญเสียด้วย
ทั้งนี้ กล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ขณะที่นายอำนาจขี่รถจักรยานยนต์ตามนายนภดลไป กระทั่งทั้งคู่จอดรถและลงมาคล้ายมีการพูดคุยกัน


คลิป


คลิป


ขอบคุณ AMARIN TV