เช้าวันที่ 26 ตุลาคม พ.ต.อ.มานพ ภุชชงค์ ผกก.สภ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา พร้อมด้วย พ.ต.ท.บวร สมบัติธีระ รอง ผกก.(สอบสวน) ร.ต.อ.ครรชิต พินิจ รอง สว.(สอบสวน) เจ้าของคดี นำตัวนางบุญพา เพ็ชชะ อายุ 53 ปี ภรรยา ไปชี้จุดเกิดเหตุ ภายหลังที่พบศพ นายประกอบ ชะบำรุง อายุ 45 ปี สามีที่ถูกทำร้ายจนเสียชีวิต อยู่ภายในห้องพักคนงานก่อสร้างถนนมอเตอร์เวย์ ของบริษัท กิจรุ่งเรือง จำกัด หลัง สนง.อบต.หนองน้ำแดง ต.หนองน้ำแดง มีเสื่อพลาสติกลายน้ำเงินห่อร่าง ในกระเป๋าพบกระดาษพับไว้ เขียนข้อความในทำนองชู้สาวว่า "มึงไม่จบกับเมียกูนะสัส ลาก่อน" สร้อยคอทองคำหนัก 2 บาทที่สวมใส่อยู่หายไปด้วย
สอบถามนางบุญพา ภรรยา นั่งร่ำไห้ บอกว่าไม่รู้ ไม่เห็น ไม่รู้ไปมีเรื่องกับใคร ขณะตำรวจตรวจที่เกิดเหตุ นางบุญพา รับโทรศัพท์พูดเสียงดังว่ามีหญิงสาวโทรเข้ามาเครื่องโทรศัพท์ของนายประกอบ ผู้ตาย บอกว่าเป็นแฟน จนช่วงบ่าย ขณะตำรวจพิสูจน์หลักฐานกำลังตรวจที่เกิดเหตุ นางบุญพา ได้ให้เพื่อนบ้านไปนิมนต์พระมาสวดส่งวิญญาณ ในห้องที่พบศพ พร้อมร่ำไห้เสียใจ พร่ำพรรณนาว่าไม่น่าจากไปเลย ขอให้ไปที่ชอบที่ชอบ ตำรวจจึงนำตัวมาสอบเครียด พร้อมกับตรวจห้องพักอย่างละเอียดอีกครั้ง จนมาพบที่นอนปิกนิก แบบพับได้ ถูกโยนทิ้งในป่าฝั่งตรงข้ามห้องพัก มีกิ่งไม้วางทับอยู่ เมื่อเปิดออกดูพบรอยเลือดและเสื้อคอกลมแขนยาว หน้าอกซ้ายมีตราของบริษัทกิจรุ่งเรือง จำกัด ติดอยู่ มีเลือดติดที่ด้านหน้า จึงนำมาให้นางบุญพา ภรรยาดูถึงกับหน้าซีด


นางบุญพา ยอมรับว่า คนก่อเหตุคือ นายสุชาติ เกิดรี อายุ 33 ปี อู่บ้านเลขที่ 4/1 หมู่ 1 ต.ศาลาครุ อ.หนองเสือ จ.สระบุรี บุตรชายตนกับสามีเก่า เป็นคนทำ โดยแจ้งว่าอยู่กินกับ นายประกอบ สามีที่มีอายุน้อยกว่า มา 10 ปี แต่ภายหลังไปติดผู้หญิงหลายคน ไม่ค่อยดูแล ชอบทำร้าย ซึ่งได้โทรศัพท์ไปเล่าให้ นายสุชาติ บุตรชาย รับรู้โดยตลอด นายสุชาติ บอกเแบบนี้ต้องจัดการ
จนก่อนวันเกิดเหตุ นางบุญพา โทรไปคุยกับบุตรชาย 3 ครั้ง ว่าวันนี้ นายประกอบ ไม่ค่อยสบาย จะเอายานอนหลับให้กินพร้อมยาแก้ไข้ เพื่อให้นอนหลับ จนเวลาประมาณ 6 โมงเย็น นายประกอบ ก็เข้านอน จึงโทรศัพท์บอกบุตรชาย เป็นระยะ จนช่วงเวลาประมาณ 21.00 น. นายสุชาติ บุตรชาย พร้อมแฟนสาวคนใหม่ ชื่อเล่นแหม่ม ไม่รู้จักชื่อจริง ก็มาที่ห้องพัก เลขที่ 29 ซึ่งเป็นห้องพัก จนผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมง ขณะที่ตนพร้อมด้วยลูกสะใภ้ น.ส.แหม่ม แฟนสาวของนายสุชาติ นั่งคุยกันอยู่บนแคร่ไม้ไผ่หน้าห้อง นายสุชาติ บุตรชาย ก็บอกแม่ว่า ไม่ต้องเข้าไปพราะรู้ว่าแม่รักเค้า พร้อมเดินเข้าไปในห้อง ซึ่งนายประกอบ นอนหลับอยู่ จากนั้นได้ยินทุบอย่างแรง 4 ครั้ง จนเวลาผ่านไป นายสุชาติ ก็แบกร่างนายประกอบ ที่ห่อด้วยเสื่อพลาสติก โดยถอดเสื้อที่เปื้อนเลือดออก เอาเสื้อคอกลมตัวใหม่ใส่ให้ ไปไว้ที่ห้องหมายเลข 34 ใกล้เคียงกัน ที่ไม่มีใครพักอยู่
จากนั้นตนก็เข้าไปเก็บที่นอนที่เปื้อนเลือด และเสื้อไปโยนเข้าป่าที่อยู่ฝั่งตรงข้ามห้องพัก ส่วนนายสุชาติ บุตรชายพร้อมแฟนสาว ได้เดินทางกลับ แต่ไม่ทราบว่าไปที่ใด แต่ปกติทำงานอยู่ที่ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ส่วนสร้อยคอทองคำที่หายไป ตนไม่ทราบว่าหายไปได้อย่างไร คาดว่า บุตรชายคงเอาไปด้วย รวมถึงกระดาษที่เขียนพับใส่กระเป๋า บุตรชายก็เป็นคนทำทั้งหมด ตนไม่ทราบ
หลังสอบสวนปากคำเรียบร้อยได้แจ้งข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และซ่อนเร้นทำลายศพ ส่วนนายสุชาติ บุตรชาย ได้ขออนุมัติศาลจังหวัดสีคิ้ว ออกหมายจับเพื่อนำตัวมาดำเนินคดี มีข้อหาเพิ่มเติมอีกคือ ลักทรัพย์ด้วย