khaothai
คดีพลิก เจอตัวแล้ว พลทหารตี๋ หนีทหารไปกับสาวสอง เจ๊ร้านลาบจี้ครอบครัวขอโทษ หลังถูกกล่าวหาว่าแอบซ่อนไว้ (คลิป)
February 01, 2019ความคืบหน้าจากกรณีนางสาวสุพรรษา สุดสาคร อายุ 36 ปี พี่สาว เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.เมือง
ลพบุรี ว่า นายทัศพล โนรี หรือ ตี๋ อายุ 21 ปี ซึ่งเป็นน้องชายได้หายตัวไป หลังเดินทางกลับไปฝึกทหารเกณฑ์ ที่กรมทหารราบที่ 31 รักษาพระองค์ จ.ลพบุรี ตั้งแต่วันที่ 16 ม.ค. 62 โดยครอบครัวสงสัยเจ้าของร้านลาบอุดร ว่าอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของพลทหารตี๋หรือไม่นั้น
วันที่ 1 ก.พ. 62 ที่ร้านลาบเป็ดอุดร บขส.ท.ทหารอดทน จุดสุดท้ายที่พลทหารตี๋ กินข้าวและหลับนอน ในวันที่ 16 ม.ค. 62 ก่อนออกเดินทางไปเข้าค่ายทหารในจังหวัดลพบุรี ในวันที่ 17 ม.ค. 62
นางจิดาภา โชติมณีสินธุ หรือ จิน อายุ 56 ปี เจ้าของร้าน ยืนยันว่า ตนไม่มีความจำเป็นที่จะต้องกักขัง หรือซ่อนตัวพลทหารตี๋ไว้ เพราะตนก็เจอกับพลทหารตี๋เพียงครั้งแรกและครั้งเดียว ทั้งนี้ ตนพร้อมให้การดูแลพลทหารตี๋ ไม่ต่างจากพลทหารใหม่คนอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นให้อาหาร ที่อาศัย หรือขับรถไปส่งที่ค่าย จึงไม่เข้าใจว่าเหตุใด ครอบครัวของผู้สูญหายจึงโยนความผิดมาที่ตนเองทั้งหมด ขณะนี้ตนตกเป็นจำเลยของสังคม เหมือนทำคุณบูชาโทษ
ส่วนกรณีที่ครอบครัวพลทหารตี๋อ้างว่า วันที่ 21 ม.ค. หลังจากแจ้งความตี๋หายไป ได้เดินทางมาที่ร้านลาบฯ และได้พบกับตนนั้นไม่เป็นความจริง เนื่องจากวันดังกล่าว ตนเองเดินทางไปดูรถยนต์ที่ศูนย์จัดจำหน่ายรถ คาดว่าครอบครัวของผู้สูญหายอาจเกิดความเข้าใจผิด ระหว่างตนกับนางอัญชิสา ลูกจ้างที่มีหน้าตาคล้ายกัน
ด้าน นายวงศกร บุบผา หรือ เค อายุ 32 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า วันที่ 21 ม.ค. ครอบครัวของพลทหารตี๋มาตามหาลูก และยืนโวยวายอยู่หน้าร้าน ซึ่งตนยืนยันว่าขณะนั้นเจ้าของร้านไม่อยู่ที่ร้าน มีเพียงลูกจ้างอยู่เท่านั้น นอกจากนี้ ครอบครัวของพลทหารตี๋ ยังโวยวายลักษณะว่า ร้านนำลูกตนเองไปซุกซ่อนที่ไหน พร้อมทั้งให้เจ้าของร้าน ร่วมสาบานว่าไม่ได้นำตัวไปกักขังหรือเอาไปซ่อนตัว ในฐานะที่ตนเป็นลูกค้าของร้านกว่า 10 ปี ยอมรับว่าไม่เคยเจอกับเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรก เพราะที่ผ่านมาแม้ว่าจะมีการหนีทหาร แต่ก็ไม่มีการอ้างว่าร้านพาตัวไปซุกซ่อนตัวแต่อย่างใด
ขณะที่ นายอำนาจ โนรี หรือ นวย อายุ 54 ปี พ่อของพลทหารตี๋ บอกว่า ตนไม่ได้โทษเจ้าของร้านลาดเป็ดอุดร ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของลูกชาย เพียงแค่สงสัยเรื่องการตอบคำถามของเจ้าของร้าน ซึ่งให้คำตอบไม่ตรงกัน 3 ครั้ง โดยเมื่อครอบครัวถามเจ้าของร้านว่า "ล่าสุดนายตี๋เดินทางออกจากร้านไปแบบไหน" ครั้งที่หนึ่งตอบว่า ไปส่งขึ้นรถ ครั้งที่สองตอบว่า ขับรถไปส่ง ครั้งที่สามบอกว่า ขึ้นวินมอเตอร์ไซค์
ส่วนเรื่องที่ว่าลูกชายจะหนีทหารหรือไม่นั้น ตนเองเชื่อว่า คนในตระกูลตนทั้งหมดผ่านการเป็นทหารมาก่อนและรักในความเป็นทหาร แต่ทั้งนี้ พฤติกรรมของลูกตนเป็นคนหัวอ่อน ใครพูดอะไรก็เชื่อ จึงอาจเป็นไปได้ว่า คืนที่อยู่ร้านลาบ ลูกตนอาจได้เจอกับเพื่อนต่างหน่วย และมีการชักชวนหว่านล้อม กระทั่งลูกตนแอบหนีทหารไปหรือไม่
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ ครอบครัวยังต้องพึ่งความเชื่อด้านไสยศาสตร์ โดยได้ไปดูดวงกับหลวงพ่อวัดดัง รวมถึงร่างทรง ซึ่งส่วนใหญ่พูดตรงกันว่ายังมีชีวิตอยู่และอยู่ทางใต้ ตนจึงคาดว่าหมายถึง จังหวัดสิงห์บุรี อีกทั้งมีหมอดูทักว่าชีวิตของนายตี๋คือ 50:50 ซึ่งก็ทำให้ผู้เป็นแม่เสียใจ ทรุดด้วยโรคประจำตัว
ล่าสุด ตำรวจ สภ.เมืองสระบุรี แจ้งว่าพบตัวนายตี๋แล้ว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานต้นสังกัด ให้มารับตัวกลับค่ายทหาร โดย พลทหารตี๋ เปิดเผยว่า วันที่ 17 ม.ค. ตนเดินทางถึงหน้าค่ายแล้ว แต่มีชาวบ้านในละแวกนั้นบอกว่า ที่ จ.สระบุรี มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจ ให้ลองไปดู ตนจึงตัดสินใจขึ้นรถตู้ไปที่ จ.สระบุรี ราคาตั๋ว 120 บาท มาลงที่สถานีรถไฟสระบุรี และมาพบรักกับสาวประเภทสองที่สถานีรถไฟ จึงตัดสินใจเที่ยวสระบุรีต่อ โดยนอนค้างที่วัดในเมืองสระบุรีด้วยกัน แต่ไม่มีอะไรเกินเลย
ส่วนที่ตนไม่ติดต่อกับทางบ้าน เพราะไม่มีเงิน และไม่คิดว่าการไม่ติดต่อกับที่บ้านจะเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้ ตนรู้ว่าสิ่งที่ทำนั้นเป็นการหนีค่ายทหาร และพร้อมยอมรับผิดตามระเบียบทางทหาร และขอโทษพ่อแม่ ครูฝึก และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำให้เดือดร้อน
คลิป
คลิป
ขอบคุณ AMARIN TV
0 comments