khaothai
จากปากคนขับรถไถ ยืนยัน ไม่ได้ขับทับ น้องต้าแงในไร่อ้อย พร้อมส่งหลักฐานให้ตรวจ DNA แล้ว
December 25, 2018ภายหลังจากเจ้าหน้าที่พบร่างของ ด.ช.ซูลุยผิว ชาวเมียรมาร์ วัย 2 ขวบ ภายในไร่อ้อย จ.สุพรรณบุรี ที่มี
การค้นหามาตลอด 8 วันที่ผ่านมา โดยนางสาวมอ อายุ 20 ปี, นายเพียว อายุ 26 ปี แม่และพ่อของเด็กวัย 2 ขวบ ได้เดินทางมาให้ปากคำเพิ่มเติม และกรณีข้อสงสัยการเสียชีวิตกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สระยายโสม อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี
โดยหลังจากนั้นนางสาวมอ แม่ด.ช.ซูลุยผิว เปิดเผยว่า ตนเห็นสภาพศพของลูกแล้ว พบว่ามีบาดแผลที่ช่วงล่างเป็นจำนวนมาก อีกทั้งของเล่นที่พบในที่เกิดเหตุนั้นก็ไม่ใช่ของลูกชาย เนื่องจากในวันที่ลูกหายไปนั้นมีเพียงหมวกและรองเท้าเท่านั้น อีกทั้ง จากการสังเกตของตน ลูกไม่น่าจะเดินไปถึงจุดที่พบศพได้ เนื่องจากเด็กมีปัญหาขาไม่ค่อยดี และรู้สึกคาใจว่าคนขับรถไถที่อยู่ใกล้จุดที่เกิดเหตุ จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของลูกชาย แม่เด็กชายซูลุยผิว วัย 2 ขวบ
ด้าน นายสมาน วงษ์กัณหา อายุ 44 ปี ผู้ขับรถคีบอ้อยในวันเกิดเหตุ เปิดเผยว่า ตนยอมรับเจอกับเด็กทั้ง 2 คน ในวันเกิดเหตุจริง โดยขณะนั้นได้ตนไถดินแปรงตรงข้างกับจุดที่พ่อแม่เด็กกำลังทำงานอยู่ ในขณะที่ขับผ่าน ตนเด็กทั้งคู่กำลังนั่งเล่นกันอยู่ตรงริมป่าอ้อย ซึ่งไม่ใช่ใต้ต้นแจง อีกทั้ง ตนเชื่อว่าหากเด็กพบรถไถกำลังทำงานอยู่ ก็จะไม่เข้าใกล้ หรือหากเจอก็จะรีบเดินหนีทันที เนื่องจากรถไถมีเสียงดัง นาย
สมาน วงษ์กัณหา ผู้ขับรถคีบอ้อยในวันเกิดเหตุ
ภาพจาก amarintv.com
จากนั้นตนไถดินเสร็จ ก็ได้ขับกลับไปที่บ้านและเปลี่ยนไปขับรถอีกคันหนึ่ง คือรถคีบอ้อย ออกจากบ้านไปคีบอ้อยที่สวนข้างบ้าน แต่ไม่ได้ขับผ่านไปบริเวณจุดที่เด็กหาย จนกระทั่งช่วงเวลาประมาณ 17.00 น. ตนได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าเด็กหาย มีเจ้าของไร่เข้ามาถามตนเองว่าเจอเด็กหรือไม่ ตนจึงออกไปช่วยตามหา แต่ก็ไม่พบ รถไถของนายสมาน
นายสมาน กล่าวอีกว่า ขณะนี้ตนเองกลับถูกมองว่าเป็นคนขับรถทับเด็ก และเป็นคนที่เห็นเด็กคนสุดท้าย ซึ่งตนยืนยันว่า ตนไม่ได้หลบหนีอย่างแน่นอน เพราะตนเองคือผู้บริสุทธิ์ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะในวันดังกล่าวต่างคนต่างทำงาน จนกระทั่งทราบข่าวก็ยังออกไปร่วมกันตามหา ซึ่งขณะนี้ตนได้มอบให้ตำรวจเข้ามาตรวจสอบรถไถคันดังกล่าว รวมถึงเสื้อผ้าที่สวมใส่ในวันเกิดเหตุ ซึ่งผลก็จะพิสูจน์ได้กับการตรวจดีเอ็นเอเรียบร้อยแล้ว
ขอขอบคุณ amarintv.com
0 comments