ต้องไปก่อน มีคนจุดธูปเรียกแล้ว อดีตเด็กเคยหายไป 5 วัน เล่าถึง น้าผี เร่งยื้อชีวิตตามหาเด็ก 2 ขวบ หายในไร่อ้อย

ความคืบหน้าการค้นหา ด.ช.ซูลุย ที่หายตัวเข้าไปในป่าอ้อย หมู่ 9 ต.สระพังลาน อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ซึ่งเข้าสู่วันที่ 6 โดยตำรวจภูธรภา...


ความคืบหน้าการค้นหา ด.ช.ซูลุย ที่หายตัวเข้าไปในป่าอ้อย หมู่ 9 ต.สระพังลาน อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี


ซึ่งเข้าสู่วันที่ 6 โดยตำรวจภูธรภาค 7 กว่า 200 นาย ได้ระดมกำลังเดินปูพรมลาดตระเวนในป่าอ้อย
นอกจากนี้ ยังมีคนงานได้เริ่มตัดอ้อยทีละต้น โดยเริ่มตั้งแต่ริมถนนจุดที่น้องซูลุยหายตัวไป มุ่งหน้าไปทางทิศเหนือ ซึ่งเป็นทิศที่คาดว่าน้องซูลุยเดินไป เพื่อปรับพื้นที่ให้สามารถเดินค้นหาได้ง่ายขึ้น และเป็นการค้นหาไปด้วย ซึ่งวันนี้มีการตัดอ้อยไปกว่า 1 ไร่ แต่ก็ยังไม่พบเบาะแสหรือร่องรอยของผู้สูญหาย
นายคอย เทพทอง ชาวบ้านในพื้นที่ เปิดเผยว่า ตอนนี้ต้นอ้อยเติบโตถึงที่สุดที่สามารถจะตัดได้แล้ว ซึ่งร่องทางเดินของระหว่างต้นอ้อยในไร่มาระยะห่างประมาณ 1.50 เมตร ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็สามารถเข้าได้ แต่จะแคบมาก เพราะต้นอ้อยเริ่มโตเต็มที่ อีกทั้งใบที่เยอะและมีความคม ถ้าเจ้าหน้าที่ไม่ได้สวมเสื้อแขนยาว หรือหมวกป้องกันอาจจะคัน และถูกบาดได้ ซึ่งป่าอ้อยสภาพนี้ตนก็ไม่คิดว่าเด็ก 2 ขวบ คงไม่สามารถเข้าไปได้ ซึ่งตนก็ไม่คิดว่าเด็กจะติดอยู่ได้
อย่างไรก็ตาม ตนก็ไม่ได้คิดว่าเป็นเรื่องผีบังตา แต่ชาวบ้านเขาเชื่อกันตนก็ไม่อยากยุ่ง เพราะไม่ว่าวิธีไหน ตนก็อยากให้เจอเด็กโดยเร็วที่สุด เพราะสงสารพ่อแม่เด็ก อีกทั้งตนก็มีลูก จึงไม่อยากให้เขาเสียใจ นอกจากนี้ตนคิดว่าถ้าเด็กตายในป่าอ้อยก็คงมีกลิ่นโชยออกมาแล้ว
ขณะที่ นางเอเวย์ ยายของน้องซูลุยที่หายตัวไป ได้ประกอบพิธีกรรมโดยได้เซ่นไหว้ปลาช่อน 1 ตัว หมากพลู 10 คำ และจุดธูป 16 ดอก ไหว้จอมปลวกที่ใต้ต้นแจงเก่าแก่อายุ 60 ปี ซึ่งเป็นจุดที่น้องซูลุยเล่นเป็นที่สุดท้ายก่อนหายตัวไป


ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว
นางมอ ล่ามภาษาพม่าได้สื่อสารแทนนางเอเวย์ว่า เจ้าตัวได้ไหว้และขอเจ้าที่เจ้าทางซึ่งเป็นประเพณีของคนไทยให้ปล่อยตัวเด็กออกมา ซึ่งตอนนี้นางเอเวย์เชื่อและยอมทำทุกอย่างเพื่อให้เด็กกลับมา ซึ่งหลังจากประกอบพิธีกรรมอุเชียงอิไตก็มีกำลังใจมากขึ้น
สำหรับตอนนี้สภาพจิตใจทุกมากและกินข้าวไม่ได้ ทั้งพ่อและแม่ของเด็ก ซึ่งตอนนี้แม่ของเด็กก็ท้องอยู่ ซึ่งเจ้าหน้าที่รัฐเข้ามาช่วยเหลือ ครอบครัวก็ดีใจ และคิดว่าเพื่อนมนุษย์ไม่ทอดทิ้งกัน แม้ว่าจะพูดกันคนละภาษา ซึ่งตอนนี้ยายขอแค่เจอหลานไม่ว่าจะมีชีวิตหรือไม่ ขอแค่ได้ร่างหลานก็พอ
นายณัฐพงษ์ นะลื่น อายุ 30 ปี ชาวบ้านทุ่งคอก อ.อู่ทอง ที่มาเฝ้าติดตามสถานการณ์การค้นหาในครั้งนี้ เปิดเผยว่า เมื่อช่วงที่ตนอายุประมาณ 9-10 ขวบ ตนเล่นซ่อนแอบในช่วงเวลาประมาณ 6 โมงเย็น ที่หลัง


บ้าน ซึ่งเป็นช่วงเวลารอยต่อเป็นความเชื่อว่าเวลาผีเดิน ตอนนั้นตนได้พบกับน้าผู้ชายคนหนึ่ง ซึ่งตนเคยรู้จัก แต่เขาจากไปแล้ว และเดินมาจูงมือตนเดินเข้าไปในป่าละเมาะ ทำให้ตนไปติดอยู่ในป่าถึง 5 วัน โดยที่ไม่รู้สึกหิวใดๆ
น้าผู้ชายคนนั้นจะชวนเล่นตลอดเวลา ซึ่งตนเดินห่างไปจากน้าผู้ชายได้ไม่เกิน 20 เมตรเท่านั้น บางครั้งต้องนั่งอยู่นิ่งๆ แต่เมื่อน้าผู้ชายชวนไปไหนตนต้องไปโดยขัดไม่ได้ เมื่อเห็นใครเข้ามาตามหาก็มองตนไม่เห็น เมื่อตนเข้าไปเรียกคนที่มาตามหา พวกเขากลับไม่เห็นและไม่ได้ยิน เมื่อตนปัดมือเขาก็ไม่รู้สึก คล้ายกับมือตนทะลุผ่านเขาตลอดเวลา ไม่สามารถแตะเนื้อต้องตัวเขาได้เลย
ระยะเวลาผ่านไปกว่า 5 วัน น้าผู้ชายก็บอกกับตนว่า "ต้องไปก่อน เพราะมีคนจุดธูปเรียก" เมื่อน้าผู้ชายเดินจากไป ตนก็เหมือนหลุดจากห้วงอะไรบางอย่าง ทำให้ได้ยินเสียงคนเรียกและจำทางกกลับบ้านได้ ซึ่งป่าที่ตนออกมานั้นก็ห่างจากบ้านตนเพียงไม่ไกลนัก


ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว
เมื่อตนออกมาได้ แม่ตนได้บอกกับตนว่าที่ออกมาได้เพราะตนนั้นพกพาเหรียญบาทตราครุฑของปี พ.ศ. 2517 ซึ่งได้รับการตกทอดจากพ่อที่เคยไปออกรบมา ซึ่งเป็นเหมือนกับตราแผ่นดิน อีกทั้งแม่ตนได้บนบานกับจอมปลวกในวันที่ 3 หลังตนหายตัวไป ว่าจะฉายหนังกลางแปลงให้ ซึ่งตนก็ออกจากป่าได้จริงๆ หลังแม่ได้บนบานเพียง 2 วัน
ในกรณีที่เด็กหายก็เหมือนเรื่องของตน และเชื่อว่าต้องเป็นเรื่องไสยศาสตร์แน่นอน และคงไม่ใช่มิจฉาชีพลักพาตัวไป เพราะพื้นที่ไร่อ้อยนี้ชาวบ้านจากด้านนอกคงไม่เข้ามา แต่ตนก็ไม่ปักใจเชื่ออะไร แต่ใจหนึ่งก็คิดว่าเป็นเรื่องผีบังตาเหมือนของตน นอกจากนี้ ตนได้ทำพิธีฝังเหรียญครุฑลงดินใต้ต้นแจงที่มีอายุกว่า 60 ปี ให้พ่อแม่ของเด็กบนบาน เพื่อให้เจ้าที่เปิดทางให้หาเด็กให้เจอ และจะได้แก้บน
ทางด้าน นายสง่า สระศรีสม ผู้ใหญ่บ้าน ม.9 ได้ชี้พิกัดแผนที่ และให้ข้อมูลว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ปูพรมเดินค้นหาในไร่อ้อยเพื่อหาตัวเด็ก ซึ่งบริเวณโดยรอบทั้งหมดมีทั้งไร่อ้อย บ่อน้ำ ที่อยู่อาศัย รวมกันกว่า 1,000 ไร่ ซึ่งได้ลาดตระเวนปูพรมในเกือบทุกจุดแล้ว แต่ก็ยังไม่เจอเบาะแสอะไร
หลังจากนี้จะมีการตัดอ้อยอย่างต่อเนื่องเพื่อให้พื้นที่เรียบเตียนและทำให้เดินหาได้ง่านขึ้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ยังไม่ละความพยายามในการค้นหา ซึ่งพื้นที่บ่อน้ำก็อาจจะเป็นความหวังในการค้นหาตัวเด็กที่สูญหายไป

ขอบคุณ AmarinTV


You Might Also Like

0 comments