นายนิมิต วันไชยธนวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี เรียกประชุม ศปก.เฉพาะกิจเหตุค้นหาเด็กน้อย


ชาวเมียนม่า วัย 2 ขวบ การบรีฟงานครั้งนี้ได้แบ่งภารกิจอย่างชัดเจน โดยแบ่งเป็นโซนการค้นหาอย่างละเอียดแบบปูพรมทุกตารางนิ้ว โดยโซน A ให้เจ้าหน้าที่ปกครอง,อาสารักษาดินแดน และเจ้าหน้าที่กู้ภัย 125 นาย ส่วนโซน B ใช้เจ้าหน้าที่ทหารจาก มทบ.ที่ 17 (จ.กาญจนบุรี),เจ้าหน้าที่ กอ.รมน.ปูพรมเป็นหน้ากระดานตรวจสอบในร่องน้ำทุกร่อง ดูช่องระหว่างต้นอ้อยทุกต้นทุกตารางนิ้วที่รับผิดชอบ 100 นาย ขณะที่โซน C ให้ตำรวจภูธรจังหวัดสุพรรณบุรี นำกำลังควบคุมฝูงชน กองร้อยปราบจลาจล จำนวน 180 นาย และโซน D โซนสุดท้ายให้กำลังตำรวจตระเวนชายแดนที่ 13 จ.กาญจนบุรี ร่วมกับ บก.ตชด. ภาค 1 รวม 90 นาย เรียงหน้ากระดานเดินตรวจสอบอย่างละเอียดแสกนทุกตารางนิ้ว หากเจอบ่อน้ำให้นำกำลังลงดูในน้ำทันที หากไม่พบตัวเด็ก แต่หากเวลาผ่านไป วันหนึ่งพบว่าเด็กเสียชีวิตในโซนไหนผู้รับผิดชอบโซนนั้นก็จะต้องได้รับโทษ คือทุกโซนที่วางไว้ต้องทำงานอย่างละเอียดที่สุด


พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ ผบช.ภ.7 สั่งการให้ พล.ต.ต.กฤษณะ ทรัพย์เดช รอง ผบช.ภ.7 (สส.) พล.ต.ต.สงวน โรงสะอาด ผบก.บก.สส.ภ.7 ลงตรวจสอบในไร่อ้อยนับพันไร่บนพื้นที่ หมู่ 9 ต.สระพังลาน อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี เพื่อค้นหาหนูน้อยชาวเมียนม่าที่สูญหายไปรวม 9 วัน โดยทีมสืบสวน บก.ภ.7 นำกังลังลงพื้นที่ประสานการทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ภ.จว.สุพรรณบุรี ประกอบไปด้วย พ.ต.อ.กฤษณ์ วาฤทธิ์ รอง ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี พ.ต.อ.รณกร ประคองศรี ผกก.สภ.สระยายโสม พ.อ.กุญช์ภัสร์ หาญสมบูรณ์ เสนาธิการ กกล.รส.มทบ.ที่ 17 จ.กาญจนบุรี รวมกำลังพลทั้งหมดกว่า 600 นาย เวลาต่อมาทีม


ค้นหาของ พ.ต.อ.กฤษณ์ วาฤทธิ์ รอง ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี พ.ต.อ.รณกร ประคองศรี ผกก.สภ.สระยายโสม พ.ต.ท.สรายุทธ์ ภาตะนันท์ สวป.สภ.ด่านช้าง พ.ต.ต.มานะ ศิริเขตรกรณ์ สวป.สภ.สระยายโสม พ.ต.ต.วรพงษ์ สนพลอย สวป.สภ.บางตาเถร พร้อมทีมลาดตระเวนเดินเท้าค้นหากระทั่งมาถึง โซน C จึงพบศพ ด.ช.ซูลุยผิว ต้าแง อายุ 2 ขวบ 1 เดือน ในสภาพน้องสวมเสื้อแขนยาวลายการ์ตูนรูปเป็ดสีเขียว นุ่งกางเกงขาสั้นสีเทาดำ นอนหงายหน้าชูมือ 2 ข้าง บนหญ้าใต้คูน้ำกว้าง 3 เมตร ลึก 2 เมตร สภาพศพเริ่มเน่าเปื่อย คาดเสียชีวิตมาประมาณ 5-7 วัน นอกจากนี้ยังพบรองเท้ายางของเด็กสีส้ม จำนวน 1 ข้าง รถแบล็คโฮของเล่นสีส้ม 1 คัน และหมวกแก๊ป สีฟ้าอีก 1 ใบ เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ก่อนแจ้งเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.สุพรรณบุรี พร้อมแพทย์โรงพยาบาลอู่ทองมาร่วมชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียดอีกครั้ง
นายนิมิต วันไชยธนวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี แถลงข่าวกรณีเจ้าหน้าที่ชุดค้นหา ได้พบศพหนูน้อยชาวเมียนมาร์ ซึ่งห่างจากจุดที่เด็กหายราว 5 กม.คาดเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 5 - 7 วัน สภาพศพเริ่มเน่าเปื่อย เจ้าหน้าที่จึงนำร่างส่งยังโรงพยาบาลอู่ทอง ก่อนจะส่งต่อพิสูจน์ยังสถาบันนิติเวช   โรงพยาบาลตำรวจ ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตต้องรอผลพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์อย่างละเอียด จึงจะสามารถสรุปว่าเด็กเสียชีวิตเอง หรือว่าถูกฆาตกรรมกันแน่ เจ้าหน้าที่มูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน หรือ Labour Rights Promotion Network Foundation (LPN) หรือ LPN นำตัวพ่อแม่เด็กมาที่ สภ.สระยายโสม อ.อู่ทอง เพื่อให้พนักงานสอบสวน


สอบปากคำเพิ่มเติมอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยพ่อแม่ของเด็กติดใจในสาเหตุว่าการตายของลูกไม่ได้เสียชีวิตตามธรรมชาติ โดยเฉพาะในเรื่องรถไถ จากตอนแรกที่มีรถไถจอดอยู่ แต่จู่ๆคนขับรถได้ขับรถไถออกไปจากจุดที่ทำงานแล้วไปเปลี่ยนผานรถไถมาใหม่ อีกประเด็นหนึ่งคือรถของเล่นที่เจอในจุดพบศพก็ไม่ใช่ของบุตรชายของตน


ทั้งนี้นายปฏิมา ตั้งปรัชญากุล ผู้จัดการมูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน หรือ Labour Rights Promotion Network Foundation (LPN) หรือ LPN ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวด้วยว่าวันเกิดเหตุเด็กหญิงสุดารัตน์ย 3 ขวบ(ชาวพม่า) ที่เป็นเพื่อนวิ่งเล่นกับเด็กน้อยผู้โชคร้าย ได้บอกตั้งแต่วันแรกแล้วว่า ด.ช.ซูลุยผิว ต้าแง อายุ 2 ขวบ 1 เดือน ไปแล้ว นั่นคือคำพูดที่ชาวพม่า หรือเมียนม่าแปลว่า ตายแล้ว แต่อย่างไรก็ตามคงต้องผลทางคดี และผลทางวิทยาศาสตร์ จากสถาบันนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจว่าเป็นอย่างไร
ภาพที่เกิดเหตุ


ภาพที่เกิดเหตุ


ภาพที่เกิดเหตุ


เรียบเรียงโดย ภัทรพล พรมพัก ทีมข่าวสยามนิวส์ จ.สุพรรณบุรี