khaothai
เขมรส่งตัว”อ้วน” “สุชาติ”บินไปสอบ แป๊ะนัดแถลงใหญ่ จับอีก3-ทีมพาหนี
August 17, 2018เขมรรอส่งตัว”เสี่ยอ้วน” ให้ตร.ไทย เตรียมนำเข้ากรุง แถลงข่าว “บิ๊กแป๊ะ” เผย”สุชาติ” บินกัมพูชา 2
รอบ เจรจา นำผู้ต้องหามอบให้ไทย รวบอีก 3 ทีมพาหนี เข้าเขมร เผยเป็นญาติ”บอล”ลูกน้องเสี่ยมือยิง “บิ๊กอวบ”ปัดไม่มีกรณีแลกเปลี่ยนผู้ต้องหา
จากกรณีนายปัญญา ยิ่งดัง หรือเสี่ยอ้วน อายุ 39 ปี พร้อมพวกรวม 6 คน ร่วมก่อเหตุยิง น.ส.ปวีณา นาเมืองรักษ์ หรือสปาย และนายอนันตชัย จริตรัมย์ หรือฟอส ที่เขาชีจรรย์ จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 29 ก.ค. ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมลูกน้องของเสี่ยอ้วนได้ทั้งหมด โดยทั้งหมดให้การซัดทอดว่าเสี่ยอ้วนเป็นผู้ลั่นไกสังหารด้วยตัวเองแล้วหลบหนีไปประเทศกัมพูชา ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจกัมพูชาได้จับกุมเสี่ยอ้วนได้ที่บริเวณชายแดน จ.ไปรเวง ขณะพยายามหลบหนีต่อไปยังประเทศเวียดนาม และเตรียมส่งตัวผู้ต้องหาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไทยตามข่าว
ส่งตัวเสี่ยอ้วน/ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 17 ส.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เปิดเผยว่า ขณะนี้ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ จเรตำรวจแห่งชาติ เดินทางไปประเทศกัมพูชาเป็นครั้งที่ 2 เพื่อประสานขอรับตัวนายปัญญากลับมาประเทศ ไทย ซึ่งตนได้พูดคุยกับ พล.ต.อ.สุชาติ ถึงความคืบหน้าทุกระยะ โดยจะแถลงข่าวอีกครั้งที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติในวันที่ 18 ส.ค. และตนพร้อมจะตอบทุกคำถาม
ที่ จ.ชลบุรี พ.ต.อ.อาทร ชิ้นทอง ผกก.สภ.นาจอมเทียน นำตัวนายภูธร สิงห์ดี อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาพาเสี่ยอ้วนหลบหนีข้ามชายแดน โดยได้รับเงินค่าจ้าง 100,000 บาท ที่จับกุมได้ที่บ้านพักใน จ.สระแก้ว โดยส่งตัวฝากขังศาลจังหวัดพัทยา ในส่วนของการพานายปัญญาหลบหนี ยังมีนายโกวัน หรือวัน ศิลปาโน อายุ 63 ปี และนายวินัย หรือเหน่ง ศิลปาโน อายุ 39 ปี ที่ร่วมพาเสี่ยอ้วนมาส่งให้นายภูธร
พ.ต.อ.อาทรกล่าวว่า ผู้ต้องหาทั้ง 3 คนที่พาเสี่ยอ้วนหลบหนี รับสารภาพว่าเป็นคนพาหลบหนีจริง ตอนนี้ส่งฝากขังศาลจังหวัดพัทยาหมดแล้ว เบื้องต้นได้สั่งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมตัวรับเสี่ยอ้วนที่กำลังจะข้ามชายแดนมา และจะเตรียมพร้อมนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ส่วนเรื่องสำนวนตอนนี้เรียบร้อยหมดแล้ว เหลือเพียงเสี่ยอ้วนถ้าได้ตัวมาก็จะรีบนำตัวมาสอบสวน เพื่อส่งฝากขังต่อไป
ล่าสุดศาลจังหวัดพัทยาได้ตัดสินนาย โกวันและนายวินัย ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพัทยาในข้อหาร่วมกันช่วยผู้อื่น ซึ่งเป็นผู้กระทำผิดหรือเป็นผู้ต้องหาว่ากระทำความผิด อันมิใช่ความผิดลหุโทษ เพื่อไม่ให้ต้องโทษ โดยพำนักแก่ผู้นั้นโดยซ่อนเร้นหรือโดยช่วยผู้นั้นด้วยประการใดเพื่อไม่ให้ถูกจับกุม จำคุก 6 เดือน ไม่รอลงอาญา นำตัวเข้าขังยังเรือนจำพิเศษพัทยา
ด้านนายปฏิพัทธ์ อักษราพงษ์ ผู้ใหญ่บ้าน ม.10 ต.สระแก้ว อ.สระแก้ว จ.สระแก้ว กล่าวว่า นายเกียรติศักดิ์ หรือบอล สุรางค์แสงมีบุญ ผู้ต้องหาในคดีเดียวกับเสี่ยอ้วน เป็นหลานของนายโกวัน ได้เดินทางมาพร้อมเสี่ยอ้วน และขอให้นายโกวันพาทั้งคู่ข้ามไปเที่ยวกัมพูชา
ขณะที่นายโกวันคิดว่าจะข้ามไปเที่ยวบ่อนการพนัน จึงติดต่อนายภูธรให้ช่วยพาเสี่ยอ้วนข้ามชายแดน หลังจากนายโกวันได้ส่งเสี่ยอ้วนเรียบร้อย ได้รับค่าตอบแทน 2-3 หมื่นบาทก็กลับมาบ้าน และถูกจับกุมพร้อมลูกชายที่เดินทางไปด้วย
นายปฏิพัทธ์กล่าวอีกว่า นายโกวันกล่าวกับตนว่าไม่รู้จักเสี่ยอ้วนเป็นการส่วนตัว แต่รู้จักเพราะหลานชาย คือนายบอลพามา จึงได้ช่วยเหลือ เพียงคิดว่าเป็นนักเล่นการพนันเท่านั้น จนตอนหลังมารู้ว่าเสี่ยอ้วนเป็นผู้ต้องหาคดียิง แต่ไม่รู้จะทำไงเพราะพาข้ามชายแดนแล้ว
แหล่งข่าวระดับสูงของกัมพูชา เปิดเผยว่า การส่งตัวเสี่ยอ้วนยังอยู่ในขั้นตอนการนำตัวส่งโดยให้อธิบดีตำรวจกัมพูชา เพื่อเสนอต่อกระทรวงมหาดไทยของกัมพูชาอนุมัติ อีกทั้งจะต้องให้รมช.มหาดไทยของกัมพูชาลงนาม อนุมัติอีกด้วย และขณะนี้ได้เบิกตัวเสี่ยอ้วนออกจากเรือนจำเพื่อส่งตัวให้ไทย
ส่วนการออกเดินทางจากกรุงพนมเปญนั้น มี พ.ต.อ. เป็ก สาแรน สารวัตรช่องพนมปึก หนึ่งในทีมจับกุม พร้อมคณะนายตำรวจ ควบคุมตัวเสี่ยอ้วนมาส่งบริเวณด่านพรมแดนปอยเปต จ.บันเตียเมียนเจย คาดว่าจะเป็นเวลาในช่วงค่ำของวันนี้แน่นอน
นอกจากนี้ศาลประเทศกัมพูชา ได้ดำเนินคดีเสี่ยอ้วน ในข้อหาหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ภายหลังจากศาลพิพากษาเสร็จสิ้น จึงได้นำตัวมาผลักดันออกนอกประเทศตามขั้นตอน
ซึ่งในการเดินทาง ท่ามกลางการคุ้มกันของหน่วยคอมมานโดของกัมพูชาที่มีอาวุธครบมือ มุ่งหน้ามาตามถนนหมายเลข 5 ผ่านจังหวัดกำปงชนัง จังหวัดโพธิสัต เข้าสู่จังหวัดพระตะบอง พอถึงอำเภอศรีโสภณ เขตจังหวัดบันเตียเมียนเจย เลี้ยวซ้ายมุ่งหน้ามาที่เมืองปอยเปต รวมระยะทางเกือบ 500 กิโลเมตร
ส่วนการรับตัวนายปัญญา ผู้ต้องหาคดีสำคัญ เมื่อเดินทางถึงคณะนายตำรวจระดับสูงของไทย จะเดินทางข้ามไปรับมอบตัวทางฝั่งกัมพูชา และจะนำขึ้นรถวิ่งผ่านด่านพรมแดนทางด้านคลองลึก นำไปขึ้นเฮลิคอปเตอร์ เพื่อหลบสื่อมวลชน ซึ่งคาดว่าเครื่องบินจะจอดรออยู่ในกองกำกับ ตชด.ที่ 12 อรัญประเทศ นำเข้าไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรุงเทพฯ ทันที
จากการสืบสวนทราบว่า นายภูธรไปยืมจากพรรคพวกมา แล้วขับพาเสี่ยอ้วนไปส่งยังจุดหลบหนีเป็นไร่มันสำปะหลัง ที่อ.คลองหาด จ.สระแก้ว ให้ใช้เส้นทางธรรมชาติหลบหนีข้ามแดนไปฝั่งประเทศกัมพูชา ได้รับ ค่าจ้างเป็นเงิน 25,000 บาท หลังขับรถไป ส่งแล้ว นายภูธรไม่ได้หลบหนีไปไหน ยังอยู่ในพื้นที่อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว ก่อนถูกตำรวจจับกุมได้เมื่อวันที่ 16 ส.ค.
โดยวันนี้เจ้าหน้าที่สำรวจเส้นทางการหลบหนีของเสี่ยอ้วนที่ผู้นำพาแจ้ง โดยลักลอบใช้ช่องทางธรรมชาติ ในพื้นที่ บ้านเขาดิน อ.คลองหาด ห่างจากจุดผ่อนปรนบ้านคลองหาดประมาณ 3-4 ก.ม. ลัดเลาะไปตาม คลองธรรมชาติ เข้าประเทศกัมพูชาที่บ้านสำเภาลูน จ.พระตะบอง โดยมีชาวกัมพูชาเป็นผู้นำทาง
ขณะที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน สภ. นาจอมเทียน นำรถยนต์มาสด้า 2 ทะเบียน กจ 761 สระแก้ว ที่นายภูธรขับรถพานายปัญญาหลบหนี กลับสภ.นาจอมเทียน นอกจากนั้นวันนี้ยังได้เข้าเก็บลายนิ้วมือภายในรถนำไปประกอบสำนวนคดี
ด้านพล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผบ.ตร. กล่าวถึงกระแสข่าวกัมพูชาเสนอขอแลกตัวนายปัญญากับนักศึกษาแพทย์ชาวกัมพูชา ผู้ต้องหาฆ่าแฟนสาวแล้วหลบหนีมากบดานในไทย ที่ตำรวจจับกุมตัวได้ในพื้นที่จ.จันทบุรี ว่า ไม่ทราบถึงเรื่องดังกล่าวแต่ อย่างใด
พล.ต.ท.จิตติ รอดบางยาง ผบช.ภาค 2 กล่าวถึงเรื่องแลกตัวนายปัญญากับผู้ต้องหาชาวกัมพูชาว่า ไม่น่าเป็นไปได้ แต่ยืนยันว่า ทางการไทยจะได้รับมอบตัวนายปัญญาใน วันที่ 18 ส.ค. แน่นอน
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยถึงกรณีการจับกุมนักศึกษาเเพทย์สัญชาติกัมพูชาที่ลงมือก่อเหตุฆ่าแฟนสาวในประเทศกัมพูชาแล้วหลบหนีเข้ามากบดานในประเทศไทย ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี ทหาร และฝ่ายปกครอง ได้ร่วมกันจับกุมตัวนายบุน พลล็อก อายุ 21 ปี น.ศ.แพทย์ผู้ก่อเหตุ และนายฮอน เวสนา อายุ 22 ปี เพื่อนที่พาหลบหนี ได้เมื่อวันที่ 17 ส.ค.
หลังจากนี้จะส่งตัวผู้ต้องหาให้เจ้าหน้าที่ ตม.ผลักดันออกนอกราชอาณาจักรทางด่าน ตม.อรัญ ประเทศต่อไป ซึ่งการจับกุมครั้งนี้เกิดจาก การแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างเจ้าหน้าที่ ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครองและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เวลา 21.45 น. วันเดียวกันนี้ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ จเรตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงการควบคุมตัวนายปัญญาว่า จากการประสานงานกับทางการกัมพูชา ตกลงว่าสามารถนำตัวกลับมาไม่ทันในวันนี้ เนื่องจากติดเรื่องเอกสารการส่งตัวต้องเสนอผ่านหลายขั้นตอนตามระเบียบของทางกัมพูชา หนังสือน่าจะเสร็จวันจันทร์ที่ 20 ส.ค.
ประกอบกับช่วงนี้ทางรัฐบาลกัมพูชาอยู่ในห้วงการจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง ครั้งที่ 6 เพิ่งเสร็จ ยืนยันน่าจะส่งตัวได้เช้าวันอังคารที่ 21 ส.ค. ยืนยันว่าไม่ได้ติดขัดเรื่องใดๆแต่เป็นเรื่องขั้นตอนตามระเบียบที่ต้องใช้เวลา
Cr:https://www.khaosod.co.th
0 comments