3ปรากฏการณ์บนฟากฟ้า ชวนชมต่อเนื่องจากวันอาสาฬบูชาถึงวันเข้าพรรษา

3ปรากฏการณ์บนฟากฟ้า ชวนชมต่อเนื่องจากวันอาสาฬบูชาถึงวันเข้าพรรษา 3ปรากฏการณ์บนฟากฟ้า – วันที่ 26 ก.ค.2561 นายวรวิทย์ ตันวุฒิบัณฑิต ปราชญ...


3ปรากฏการณ์บนฟากฟ้า ชวนชมต่อเนื่องจากวันอาสาฬบูชาถึงวันเข้าพรรษา
3ปรากฏการณ์บนฟากฟ้า – วันที่ 26 ก.ค.2561 นายวรวิทย์ ตันวุฒิบัณฑิต ปราชญ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นด้าน


ดาราศาสตร์ และที่ปรึกษาหอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา ฉะเชิงเทรา กล่าวว่า “ในค่ำคืนวันที่ 27 กรกฎาคม (วันอาสาฬหบูชา) ต่อเนื่องถึงเช้าวันที่ 28 กรกฎาคม 2561 (วันเข้าพรรษาและวันเฉลิมพระชนมพรรษา) จะมีปรากฏการณ์สำคัญ ทางดาราศาสตร์ รวม 3 ปรากฏการณ์ ประกอบด้วย


1 ดาวอังคารอยู่ตำแหน่งตรงข้ามดวงอาทิตย์ ที่ระยะห่าง 57.8 ล้านกิโลเมตร เราจะมองเห็นดาวอังคารสีส้มแดงสุกสว่างทางทิศตะวันออกเฉียงใต้และมีขนาดใหญ่กว่าปกติ สามารถสังเกตด้วยตาเปล่าได้ตลอดคืน
 2 จันทรุปราคาเต็มดวง ในช่วงหลังเที่ยงคืนของวันที่ 27 กรกฎาคม คราสเต็มดวงกินเวลา 1 ชั่วโมง 43 นาที เวลา 02.30 – 04.13 น. นับเป็นจันทรุปราคาเต็มดวงที่ยาวนานที่สุดในศตวรรษที่ 21
 3 ดวงจันทร์เต็มดวงไกลโลกที่สุดในรอบปี ที่ระยะห่าง 406,086 กิโลเมตร ในขณะเกิดจันทรุปราคาเต็มดวง ยังตรงกับช่วงดวงจันทร์ไกลโลกที่สุดในรอบปี ดังนั้นในคืนดังกล่าว เราจึงจะเห็นจันทรุปราคาเต็มดวงในช่วงที่ดวงจันทร์มีขนาดเล็กที่สุดในรอบปี
 และยังจะเห็น “ดาวอังคารสีแดง เคียงดวงจันทร์สีแดง” อีกด้วย ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนักสามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าชัดเจน


ทั้งนี้การเกิดปรากฏการณ์จันทรุปราคาเต็มดวง เริ่มหลังจากเที่ยงคืนวันที่ 27 กรกฎาคม 2561 เป็นปรากฏการณ์จันทรุปราคาเต็มดวง ครั้งที่ 2 ในรอบปี 2561 คราสเต็มดวง จะพาดผ่านทวีปยุโรป เอเชีย ออสเตรเลีย แอฟริกา บางส่วนของทวีปอเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ มหาสมุทรแปซิฟิก มหาสมุทร


แอตแลนติก มหาสมุทรอินเดีย และขั้วโลกใต้ สำหรับประเทศไทยสามารถสังเกตการณ์ได้ทุกพื้นที่ทั่วประเทศ สังเกตได้ด้วยตาเปล่า ตั้งแต่เวลา 00.14 – 06:10 น.


“ในประเทศไทยสามารถเห็นคราสเต็มดวง ตั้งแต่เวลา 02.30 – 04.13 น. นานถึง 1 ชั่วโมง 43 นาที นับเป็นจันทรุปราคาที่เต็มดวงยาวนานที่สุดในศตวรรษที่ 21 และยังเป็นจันทรุปราคาในช่วงที่ดวงจันทร์เต็มดวงไกลโลกที่สุดในรอบปี ที่ระยะทาง 406,086 กิโลเมตร นับเป็นปรากฏการณ์จันทรุปราคาเต็มดวงที่ดวงจันทร์สีแดงอิฐมีขนาดปรากฏเล็กกว่าปกติเล็กน้อย” นายวรวิทย์ กล่าว
 สำหรับหอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบเฉลิมพระชนมพรรษาฉะเชิงเทรา เป็นหอดูดาวภูมิภาคตะวันออก ที่ใกล้กรุงเทพฯที่สุด จัดกิจกรรมสังเกตการณ์ดาวอังคารใกล้โลก และจันทรุปราคาเต็มดวง ในคืนวันที่ 27 ถึงวันที่ 28 กรกฎาคม 2561 เชิญชวนผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรมโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เริ่มตั้งแต่เวลา 18.00 น.ถึงรุ่งเช้า เวลา 04.30 น.


นอกจากนี้ คืนดังกล่าวยังมีวัตถุท้องฟ้าดาวเคราะห์มากมายให้สังเกตการณ์ อาทิ ดาวศุกร์ในช่วงเวลาหัวค่ำปรากฏทางทิศตะวันตก ตามประกอบด้วยดาวพฤหัสบดีปรากฏทางทิศใต้ในมุมสูงบริเวณกลุ่มดาวคันชั่ง และดาวเสาร์ปรากฏทางทิศตะวันออกเฉียงใต้บริเวณกลุ่มดาวคนยิงธนู
 ตลอดจนจัดกิจกรรมทางดาราศาสตร์อื่น ๆ ที่น่าสนใจ เช่น แนะนำการดูดาวเบื้องต้น เรียนรู้ท้องฟ้าและกลุ่มดาวต่าง ๆ รวมทั้งปรากฏการณ์จันทรุปราคาเต็มดวง อีกด้วย”นายวรวิทย์ กล่าว


“คืนวันที่ 27 กรกฎาคม 2561 ในการสังเกตการณ์ดาวอังคาร ที่จะโคจรมาอยู่ในตำแหน่งตรงข้ามดวงอาทิตย์ หลังจากนั้น ดาวอังคารจะโคจรเข้าใกล้โลกเรื่อยๆ จนกระทั่งเข้าใกล้โลกที่สุด ในวันที่ 31 กรกฎาคม 2561 ที่ระยะห่าง 57.6 ล้านกิโลเมตร จากระยะห่างเฉลี่ยประมาณ 225 ล้านกิโลเมตร เป็นการโคจรใกล้โลกที่สุดในรอบ 15 ปี นับตั้งแต่ปี 2546
 ดาวอังคารจะสว่างมาก และมีขนาดปรากฏใหญ่กว่าปกติ สังเกตเห็นได้หลังดวงอาทิตย์ตกลับขอบฟ้า ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ตลอดทั้งคืนไปจนถึงรุ่งเช้าในวันถัดไป ซึ่งในวันดังกล่าวทางหอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบเฉลิมพระชนมพรรษาฉะเชิงเทรา ได้จัดกิจกรรมทางดาราศาสตร์เช่นเคย”นายวรวิทย์ กล่าวในที่สุด

Cr:https://www.khaosod.co.th



You Might Also Like

0 comments