จากกรณีที่ศิษย์เก่าโรงเรียนสตรีวัดระฆัง แชร์ข้อมูลทางสื่อโซเชียล มีเดีย เปิดโปงพฤติกรรมครูสอนวิชาพละศึกษาชาย มีพฤติกรรมคุกคามทางเพศลูกศิษย์หญิงในโรงเรียนหลายราย และมีผู้ออกมาให้ข้อมูลว่าถูกครูชายรายนี้ สัมผัสร่างกายส่วนต่างๆ โดยมีหลักฐานเป็นภาพถ่าย และข้อความแชทไลน์ในทำนองชู้สาวซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้น

ล่าสุดวันที่ 21 มีนาคม ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์รายงานว่า นายนายราวี กลิ่นหอม ครูวิชาพละ บอกว่าตนเองพร้อมเพื่อนครู 4-5 คนเดินทางมาพบตำรวจโดยให้ปากคำว่าไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขิ้นจริง เพื่อนครูที่ไปด้วยก็ให้การรับรองว่าครูพละไม่มีพฤติกรรมตามที่ถูกกล่าวหา ครูพละบอกต่ออีกว่า คนที่ปล่อยข่าวที่ทำให้ตัวเองเสื่อมเสียนี้ น่าจะเป็นเพื่อนครูอีกคนที่เคยสนิทสนมกันมานาน แต่มาเกิดผิดใจกันภายหลัง จึงมีการกลั่นแกล้ง สร้างเรื่องราวดังกล่าวขึ้นมาใส่ร้ายตนเอง ภาพถ่ายคู่กับหญิงสาว ก็เป็นภาพแฟนตนเอง ซึ่งส่งให้เพื่อนครูที่ขัดแย้งดูนานแล้ว จึงเชื่อว่าคนที่นำรูปมาแชร์ให้คนเข้าใจผิด ก็ต้องเป็นครูคนที่ขัดที่ขัดแย้งกับตนเองแน่นอน ส่วนเรื่องที่มีการแชทคุยกับนักเรียนตนเองยอมรับว่าคุยกันจริง แต่ไม่ได้คุยกันแบบชู้สาว

เรื่องที่เกิดขึ้นมีการแชร์ข้อมูลกันโลกโซเชียลกันจนสับสนทำให้ตทำให้ตนเสียชื่อเสียงตนเสียชื่อเสียงตนจึงอยาก ร้องขอความเป็นธรรมผ่านผู้สื่อข่าวว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นไม่เป็นความจริง และภาพที่เห็นกันในโซเชียลก็เป็นภาพแฟนตนเองไม่ใช่เป็นเด็กนักเรียนที่เป็นข่าว ทั้งนี้ตนเองได้ไปแจ้งความกับตำรวจไว้แล้วทั้งอาญาและแพ่ง ยืนยันเอาเรื่องให้ถึงที่สุดกู้ศักดิ์ศรีความเป็นคน


ด้านพันตำรวจเอกมนัส รุ่งนาค ผู้กำกับการ สน.บางกอกน้อย ลำดับเรื่องให้ฟังดังนี้ คือ มีเคสครูชายของโรงเรียนดังกล่าว ล่วงละเมิดนักเรียนหญิง 2 คดี คดีแรก เป็นเคสครูจีนข่มขืนนักเรียนหญิงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เมื่อกลางปี 2561 คดีนี้ พยานหลักฐานค่อนข้างชัดเจน และขณะนี้ ได้จับกุมตัวเรียบร้อยแล้วส่วนอีกเคสที่พูดกันมากในตอนนี้ คือ เคสครูพละ ข่มขืนนักเรียนหญิงชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 1 ซึ่งเคสนี้ ตำรวจบอกว่า น่าจะเป็นเรื่องโอละพ่อ เป็นการจับแพะชนแกะ ส่งต่อข้อมูลกันจนสับสน ซึ่งเมื่อสอบสวนแล้ว หลักฐานโน้มเอียงไปในเรื่องของการกลั่นแกล้งกัน ระหว่างครูพละที่ตกเป็นข่าวกับครูในโรงเรียนเดียวกัน โดยเรียกเด็กที่ถูกอ้าง และครูพละมาสอบถาม ทั้งคู่บอกว่าไม่มีเหตุการณ์เกิดขึ้นตามที่เป็นข่าว ส่วนเรื่องที่อ้างว่าถูกครูพละข่มขืน จนถึงขณะนี้ยังไม่มีใครมาแจ้งความกล่าวหาครูพละ แต่ครูพละได้แจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าของเฟซบุ๊ก ที่โพสต์ภาพและข้อความกล่าวหาตนเอง ฐานหมิ่นประมาททำให้เสียชื่อเสียงแล้ว

อย่างไรก็ตาม ทางหน่วยงานการศึกษาที่กำกับดูแลโรงเรียนที่ตกเป็นข่าว ก็ได้ลงพื้นที่สอบสวนข้อเท็จจริงเพิ่มเติม หลังได้สั่งย้ายครูพละคนดังกล่าวไปช่วยราชการที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา 1 กรุงเทพมหานครแล้ว คาดว่าจะสรุปผลการสอบสวนได้ภายในสัปดาห์นี้

ภาพประกอบ


ภาพประกอบ


เรียบเรียงโดย กำพล วงศ์สุทธา ทีมข่าวสยามนิวส์ จ.ปทุมธานี