เป็นขวัญใจในโลกโซเชียลสำหรับ สารวัตรเอก ที่ชอบแสดงความคิดเห็นในประเด็น และแง่มุมต่างๆ ที่


เป็นกระแสในสังคม จนถูกอกถูกใจชาวโซเชียลเป็นอย่างมาก และทำให้มีผู้ติดตามเป็นจำนวนมากปัจจุบันพ.ต.ท. เอกราช หุ่นงาม หรือ สารวัตรเอก ดำรงตำแหน่งเป็นรอง ผกก.ป. ที่ สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ และก่อนหน้านี้เคยเป็นสารวัตรอำนวยการ สภ.สลุย อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร เคยโด่งดังเมื่อครั้งที่วิจารณ์เกี่ยวกับกฎหมายห้ามนั่งท้ายรถกระบะ จนถูกใจชาวโซเชียลกันยกใหญ่และทำให้ข้อความดังกล่าวถูกแชร์ต่อกันเป็นจำนวนมาก เป็นเหตุให้ผู้บังคับบัญชาเรียกตัวพบเพื่อตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัย แต่ทุกอย่างก็จบลงด้วยดีท่ามกลางกำลังใจจากประชาชนที่มีให้มาอย่างต่อเนื่อง


-สารวัตรเอกโพสต์เฟซบุ๊กแสดงความเห็นเกี่ยวกับกฎหมายห้ามนั่งท้ายรถกระบะว่า การออกกฎหมายไม่ควรก่อให้เกิดความเดือดร้อนกับชีวิตคน ดังนั้นควรรับฟังเหตุผลของคนทุกระดับชั้นก่อนจะสรุปเป็นข้อกฎหมายออกมา เรียกได้ว่าตอนนั้นเป็นกระแสที่ดังมาก เพราะเป็นช่วงใกล้จะถึงเทศกาลสงกานต์ ที่คนจะเดินทางกลับบ้าน ถือเป็นการออกมาสวนนโยบายของผู้ใหญ่ ที่ถูกใจชาวโซเชียลอย่างมาก
-อีกทั้งเรื่องดราม่าหวย 30 ล้าน ระหว่างครูปรีชาและลุงจรูญ โดยสารวัตรเอกก็โพสต์คำคมเตือนสติไว้ว่า "รู้ว่าไม่ใช่ของตัวเองยังจะเอา"
-เรื่องเครื่องแบบตำรวจ เมื่อในหลวงร.10 พระราชทานเครื่องแบบตำรวจ ว่าควรให้แต่งเป็นสีเดียวกันนั้น สารวัตรเอกก็ได้สวมชุดตำรวจแล้วพูดถึงประเด็นนี้ว่า เมื่อใส่เครื่องแบบเป็นสีเดียวกันแล้ว ตำรวจทุกคนก็ควรจะสามัคคีกัน ไม่แตกแยกกัน เมื่อพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 ทรงพระราชทานผ้าให้ตำรวจตัดเครื่องแบบด้วยสีนี้ และผู้บังคับบัญชาระดับสูงมีการกำชับเรื่องระเบียบวินัยเกี่ยวกับทรงผมให้สั้นเรียบร้อย นับเป็นเรื่องที่ดีสำหรับตำรวจ


-วิจารณ์เรื่อนักร้องดัง เสก โลโซ ซึ่งผลงานเพลงทำให้เขาโด่งดัง แต่กลับมาพัง
-วิจารณ์เรื่องรถแท็กซี่ในเมืองกรุง ว่าเลือกรับแต่ผู้โดยสารต่างชาติ
-และถึงแม้จะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็ใช่ว่าจะไม่เคยทำผิดพลาด เพราะเจ้าตัวเคยโพสต์ภาพโดนใบสั่งจากขนส่ง และยังบอกด้วยว่า ยอมจ่ายค่าปรับทุกครั้ง เพราะมีธุระเร่งด่วน ระยะทางอีกยาวไกล ขับ 90 กม./ชม. คงไปไม่ทัน...
นอกจากนี้ยังเป็นนายตำรวจที่ชาวโซเชียลให้ความสนใจอย่างมาก และการใช้ชีวิตของสารวัตรยังเรียบง่าย ติดดิน เคยนำกระท้อนมาเปิดท้ายขายในราคาถูกให้ชาวบ้าน ชอบปลูกผัก ทำสวน และมีข้อคิดดีๆ มาโพสต์เตือนใจบนเฟซบุ๊กอยู่เสมอ จนมาวันนี้ได้รับใบพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ตริตาภรณ์ช้างเผือก นับเป็นความยินดีอย่างยิ่ง และมีชาวโซเชียลเข้ามาร่วมแสดงความยินด้วยเป็นจำนวนมาก


ล่าสุดในเฟสบุ๊ก สารวัตรเอก หุ่น โพสต์ข้อความระบุว่า ลงนามใบลาออกแล้ว รู้สึกไม่ดีเลย ผมทำถูกแล้วใช่หรือไม่ 36 ปีกว่ามันย่อมผูกพันผมมากเป็นธรรมดา เรื่องบางเรื่องเดินหน้าแล้วถอยหลังไม่ได้ แม้จะเจ็บปวดลงลึกเพียงใดก็ตาม วันที่ 1 ที่จะถึง ผมขอกราบลาพ่อแม่พี่น้องชาวเมืองประจวบ ไปทำหน้าที่ของคนไทยสักครั้ง ขอเพียงอย่าทิ้งกัน จะบุกน้ำหรือลุยไฟผมก็ยอม ขอกำลังใจให้ผมด้วยนะครับ สวัสดีครับ


อย่างไรก็ตามคาดการณ์ว่าการลาออกครั้งนี้เพราะสารวัตรอาจเข้าสมัครเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร์ หรือ ส.ส.โดยก่อยหน้านี้ สารวัตรเอก ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก สารวัตรเอก หุ่น โดยได้เล่าถึงเหตุการณ์ที่มีบุคคลหลายคนติดต่อให้ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น สมาชิกสภาผู้แทนราษฏร์ หรือ ส.ส. แต่กระนั้นทางเจ้าตัวก็เกิดคำถามขึ้นหลายคำถาม สุดท้ายเจ้าตัวบอกว่าไม่ว่าความเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นหรือไม่ แต่อุดมการณ์ของตนนั้นยังคงเดิม ซึ่งเรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร ลองไปดูรายะเอียดที่มาของเรื่องนี้ ช่วงนี้ มีหลายคนมาติดต่อให้ผมลงสมัคร สส.มันคงเป็นข้อเสนอที่แปลกมากกับชีวิตราชการอย่างผม แต่สิ่งที่ผมคิดสับสนวุ่นวายในสมองคือ มันช่างเป็นช่วงเวลาที่ผมเบื่อกับชีวิตที่ทำอยู่พอดี อยากเปลี่ยนแปลงบ้าง แต่มันก็มีความจริงในใจผมอีกว่า ถ้าผมลาออกสมัคร สส.ผมจะไม่หวนกลับมาทำงานเดิมอีกไม่ว่าจะได้รับการเลือกจากพี่น้องประชาชนหรือไม่ และมันก็มีคำถามต่อไปอีกว่า พรรคแบบใดละที่ผมควรเข้าเป็นสมาชิก พรรคใดที่ผมเป็นแล้วผมจะช่วยเหลือพี่น้องได้อย่างน้อยสัก 80% สิ่งที่ผมมุ่งมั่นอยากให้เป็น คือพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมจากเล็กไปหาใหญ่ คือเขตเราต้องมั่นคงก่อน ต่อไปคือจังหวัดเรา และต่อไปคือประเทศไทยเราตามลำดับ คนจนคนไม่มีอำนาจต้องได้รับความเป็นธรรม คนรวยคนมีอำนาจทำผิดต้องได้รับโทษ คำถามต่อไป ผมไม่มีเงินจะลงยังไง และคำถามสุดท้าย จะมีคนเลือกผมหรือ พอมาถึงตรงนี้มันก็จะเหนื่อยๆท้อๆหน่อยนะ แต่ไม่ว่าความเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นหรือไม่ ผมสัญญาว่า อุดมการณ์ผมยังคงเดิม ผมวัดคนที่น้ำใจ ไม่ใช่น้ำลายครับ!!